รีวิวล่าสุดของBlog (จิ้มเบาๆที่รูปได้เลยครับ)

แสดงตัวอย่าง แสดงตัวอย่าง แสดงตัวอย่าง

19 ก.พ. 2556

Warm Bodies ซอมบี้ที่รัก (2013)

Warm Bodies ซอมบี้ที่รัก (2013)


   เรื่องนี้ถือเป็นความแปลกใหม่ัของหนังซอมบี้ได้เลย ในเมื่อมนุษย์หลงรักกับซอมบี้?? เเต่ี้ซอมบี้ที่ว่า้้ี้นี้ไม่ได้น่าเกลียดน่้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้ากลัวอย่างที่คิดนะครับ เพราะ่หล่อมากต่างหากล่ะ (ซอมบี้หล่อ?? 55) เชื่อว่าสาวๆหลายๆคนอาจโดนใจไม่มากก็น้อยล่ะนะ...จัดว่าเป็นหนังคลายเครียด น่ารัก เเหวกเเนวๆ รวมถึงเพลงที่เพราะโดนใจ! อย่างเเรง ด้วย ฮ่า่ๆ..
   Warm Bodies กำกับโดย โจนาธาน เลวีนา เเละได้นักเเสดงวัยรุ่นหน้าตาดี อย่าง นิโคลัส ฮอลท์ กับ เทเรซ่า ปาล์มเมอร์ ทั้งสองก็เคยมีผลงานมาบ้างอย่างล่้าสุด นิโคลัส ฮอลท์ (X-men first class) เทเรซ่า ปาล์มเมอร์ (The Sorcerer’s Apprentice)
Read More

14 ก.พ. 2556

Hansel and Gretel :witch hunters (2013)

 Hansel and Gretel : witch hunters (2013)
นักล่าแม่มดพันธ์ดิบ


  สำหรับหนังล่าแม่มด ที่ดัดแปลงมาจากนิทานสุดคลาสสิกของสองพี่น้อง โดยผู้ที่รับบทในเวอร์ชั่นนี้  เจเรมี เรนเนอร์ กับ  เจมม่า อาร์เทอร์ตัน รับบทเป็นพี่น้อง ฮันเซล และ เกรเทล
กำกับโดย ทอมมี่ เวอร์โคล่า

  ในเรื่องทั้งสองถูกนำไปทิ้งไว้ในป่า เเล้วบังเอิญไปเจอบ้านขนมเเต่เเล้วกลับเจอเเม่มดที่เเสนดุร้ายภายในบ้านขนม ทั้งสองต่อสู้จนเอาชนะเเม่มดได้อย่างทุลักทุเล เเละเผาย่างตายในที่สุด
หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้ตระหนักว่า "เราจะไม่อ่อนเเออีกต่อไป เราต้องเข้มเเข็งเเละอยู่บนโลกอันโหดร้ายนี้ให้ได้" 
  เเต่เมื่อเวลาผ่านไป 15ปี สองพี่น้องได้เติบโต เเละเเข็งเเกร่งขึ้น (เอาตรงๆนะ โครตเก่งเว่อร์ๆเลย ไม่รู้ไปฝึกวิชามาจากไหน ฮ่าๆ) เเละงานที่ ฮันเซล และ เกรเทล ทำอยู่เป็นประจำก็คือ การตามล่าเเม่มด เพราะนี่คือภารกิจหลักของทั้งสองพี่น้องไปซะเเล้ว
Read More

Life of Pi ชิวิตอัศจรรย์ของพาย (2012)

Life of Pi ชิวิตอัศจรรย์ของพาย (2012)


   Life of Pi สร้างขึ้นจากหนังสือขายดีแนวผจญภัยแฟนตาซีของ ยาน มาร์เทล ถ่ายทอดเรื่องราวของเด็กหนุ่มชาวอินเดีย ชื่อ พาย พาเทล โดย Ang Lee ผู้กำกับรางวัลออสการ์ เเละ นักเเสดงนำหน้าใหม่อย่าง Suraj Sharma เล่นบทเป็น “พาย”

(ผมจะรีวิวแบบคร่าวๆ ผสมผสานกับแนวความคิดที่หนังพยายามจะถ่ายทอด)

  เรื่องราวของหนุ่มที่ชื่อว่า “พาย” เป็นคนอินเดียที่นับถือทั้ง สาม ศาสนาในเวลาเดียวกัน คริสต์ ฮินดู อิสลาม เค้าใคร่รู้เสียทุกอย่าง เขาสนใจในหลายๆสิ่ง หรือที่เรียกว่า เป็นผู้ใฝ่รู้อยู่เสมอๆ จึงไม่แปลกใจที่เขาจะเป็นเด็กที่เก่ง และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าเขาจะเชื่ออะไรดี ระหว่างความสมเหตุสมผล และ ความเชื่อของคนหลายๆคน “คุณเลือกที่จะเชื่อเรื่องไหน…..เพราะมันเชื่อมโยงกับพระเจ้า”

Read More

The Hobbit : An Unexpected Journey (2012)


The Hobbit : An Unexpected Journey (2012)

-- การผจญภัยสุดคาดคิด --

   การกลับมาของเหล่า hobbit ตัวน้อย และภาพบรรยากาศเก่าๆที่เรามิอาจจะลืมเลือนได้ อย่าง the lord of the rings หนังแฟนตาซีที่ดีที่สุด ตอนนี้ the hobbit ก็กลับมาให้เหล่าแฟนๆหายคิดถึงกันแล้วล่ะ...

ปีเตอร์ แจ็คสัน ได้สร้างตำนานหนังฟอร์มยักษ์ขึ้นหิ้ง อย่าง the lord of the rings ที่ใครๆต่างก็ชื่นชอบ และการมาครั้งนี้ใน hobbit ที่ไฉไลกว่าเดิม ทั้งความสนุก และฉากแอคชั่น เอฟเฟคสมัยใหม่ ตระกานตาสีสันสวยงาม ภาพ ฉาก ที่ทำได้ดี ดำเนินเรื่องกระชับฉับไว แม้ช่วงแรกๆอาจจะยืดไปบ้างกับช่วงสนทนาที่นาน เพราะต้องเล่ารายระเอียดต่างๆ ความเป็นมาวิถีชีวิตว่าเป็นมาอย่างไร ช่วงนี้อาจทำให้เบื่อไปบ้างเล็กน้อย แต่ถ้าเปิดใจที่จะรับฟัง มันก็ไม่น่าเบื่อเท่าไรหรอก แต่พอผ่านจุดนั้นไป ความสนุกก็เริ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง!!...

Read More

TAKEN 2 / ฅนคม ล่าไม่ยั้ง (2012)


TAKEN 2 / ฅนคม ล่าไม่ยั้ง (2012)


   ใครที่เป็นแฟนหนังเรื่องนี้บ้างครับ ในที่สุดก็มาแล้ว การรอคอยได้สิ้นสุดลง เมื่อ เลียม นิสัน กลับมารับบทพ่อใน Taken2 อีกครั้ง ประเภทของหนัง จัดอยู่ใน ACTION / CRIME / DRAMA !!

สำหรับ ภาคนี้ ดำเนินเรื่องต่อจากภาคแรก มาเฟียชาวอัลบาเนียที่เคยจับตัวผิดคนเมื่อครั้งที่แล้ว สำหรับคราวนี้พวกเขากลับมาล้างแค้น โดยชายที่มี “ทักษะเฉพาะตัวหลายด้าน” พวกมันจะไม่หยุดหาทางให้เขาและครอบครัวเป็นอิสระ จะคอยตามราวี ไม่เลิก จะล้างแค้นที่ทำกับครอบของมัน ทาง ไบรอัน มิลส์ (เลียม นีสัน) เจ้าหน้าที่ CIA ผู้ที่มีความสามารถเฉพาะตัวหลายๆอย่าง อย่างไบรอันจะต้องเผชิญและรับมือกับปัญหานี้...ไบรอัน ลิลส์ ทำทุกวิถีทางเพื่อหา เลนอร์ ที่ถูกลักพาตัวไประหว่างช่วงพักร้อนที่อิสตันบูล โดยพ่อของผู้ร้ายที่โดนไบรอัน มิลส์ สังหารลูกชายของเขาในภาคแรก เลยมีความเเค้นฝังใจที่ต้องการจะล้างแค้นเขาอย่างถึงที่สุด!!

ภาคที่แล้วลูกสาวโดนจับ แต่ภาคนี้โดนจับทั้ง ไบรอัน มิลล์ และ เลเนอร์ อดีตภรรยา หรือทั้งพ่อเเละเเม่ นั่นเเหล่ะครับ แต่ยังมีพิเศษกว่านั้น.. ลูกสาวสุดที่รักของ ไบรอัน มิลล์ ภาคนี้ไม่ธรรมดา คิม สามารถแทคทีมกับพ่อ หาทางช่วยเหลือ เลเนอร์ และใช้เทคนิคพิเศษชั้นสูงทางการทหาร เพื่อปกป้องครอบครัวและต่อสู้กับเหล่าร้าย!!

แม้ตัวร้าย จะตายง่ายไปนิด แต่ก็ยังคงเรื่องไว้ถึงความสนุกและมันส์ และ ความเก่งเเละความสามารถของพระเอก แน่นอน เลียม นิสัน ก็ยังเล่นดีเหมือนเดิมในบทพ่อรักลูก คอยปกป้องครอบครัวอันเป็นที่รัก อย่างที่บอกภาค2นี้ มีสิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเข้ามา นั่นก็คือลุกสาว ของพระเอกที่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ และต่อสู้กับตัวร้าย เธอดูกล้า และแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน และไม่ได้อ่อนแอเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ดูแล้วเป็นสีสัน และความแตกต่างจากภาคก่อน เลยทีเดียว

แต่ถ้ามาพุดถึงเรื่องแอคชั่น ต้องบอกก่อนเลยว่า ภาคแรกยังทำได้ค่อนข้างดีกว่าอยุ่มาก ลุ้นกว่า น่าจดจำกว่า ภาคนี้อาจจะดูเเล้วอืดอาดไปบ้่าง เเต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความสนุกเเละมันส์เหมือนเดิม จริงอยู่ภาค2อาจจะไม่มันส์เท่าภาคแรก แต่ก็ถือว่าสนุกและมันส์ไม่เเพ้กันเท่าไรนัก ไม่ได้เเย่ หรือด้อยกว่าอะไรมากมาย..ครับ ใครที่เป็นแฟนหนังเรื่องนี้ก็คงไม่พลาดอย่างแน่นอน แนะนำให้ไปดูกันนะครับ

ส่วนตัวผมชอบมาตั้งแต่ภาคแล้ว ตอนนี้ก็ลุ้นให้มีภาคต่อๆไปนะ คราวนี้ก็ต้องลองติดตามว่าจะมีอะไรใหม่ๆมาเพิ่มให้น่าสนใจมากขึ้นไปอีก ก็ต้องคอยติดตามต่อไปครับ


คะแนน 8 /10

ขอบคุณคร้าบ


Read More

The Dark Knight Rises (2012)


>> The Dark Knight Rises อัศวินรัตติกาลผงาด!! (2012) <<


   ทุกการเดินทางก็ต้องมีจุดสิ้นสุด คริสโตเฟอร์ โนแลน ก็คงมองเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ มนุษย์ค้างคาว ฉบับของเขาต้องได้เวลาปิดฉากลงใน The Dark Knight Rises อัศวินรัตติกาลผงาด! โดยมีทีมนักแสดง ในภาคนี้ได้แก่ คริสเตียน เบล , ทอม ฮาร์ดี้ , แอนน์ แฮทธาเวย์ , มอร์แกน ฟรีแมน , แกรี่ โอล์ดแมน , ไมเคิล เคน , มารียง โกตียาร์ , โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ และ เลียม นีสัน

  ด้วยการที่ตั้งความคาดหวังไว้สูงมาก!! จึงเกิดการเปรียบเทียบ ต่างๆนาๆ ด้วยมาตรฐานงานสร้างในระดับสูงของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่มีความจริงจังในตัวอย่างBatman Begins สานต่อด้วยความเหนือชั้นขึ้นไปอีกกับ The Dark Knight โดยมี ฮีธ เลดเจอร์ (Heath Ledger) ในบทโจ๊กเกอร์ ซึ่งบทบาทการแสดง ทั้งบุคลิก ถือว่าเหนือชั้นจริงๆ นับถือจริงๆครับ และแน่นอนมันจะเป็นภาพจำของทุกคนที่ได้ชมเมื่อเอ่ยถึงภาค Knight ซึ่งถือว่าเป็นผลงานชั้นเยี่ยมที่สุดไปเลยก็ว่าได้

  ถึงแม้ว่าจะเชื่อมือผู้กำกับมือทองของยุคนี้อย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน แต่ก็ อดคิดไม่ได้ว่าในภาคปิดตำนานอัศวินรัตติกาล The Dark Knight Rises นั้น โนแลนจะมีอะไรมานำเสนอไม่ให้น้อยหน้า The Dark Knight ที่ใครต่างก็มองว่ามันอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว แต่หลังจากที่ชมจบก็ทำให้ผมพบคำตอบว่า ไม่ควรสงสัยในฝีมือการกำกับของโนแลนตั้งแต่แรกแล้ว!

  แม้หลายๆคนจะบอกว่า The Dark Knight เข้มข้นกว่า ได้อารมณ์มากกว่า ได้อารมณ์ความเป็นศาสตร์ และศิลป์ มากกว่า ส่วนนั้นยอมรับครับ เพราะมันเหนือชั้นจริงๆ แต่..นั้นคือ The Dark Knight!!ครับ ซึ่งไม่ใช่ “The Dark Knight Rises”

  เพราะอะไรน่ะเหรอ ผมมองว่า ไม่น่าจะเอามาเปรียบเทียบกันได้ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ถึงต้องเอามาเปรียบเทียบกันด้วย ในมุมมองของผม กลับคิดว่า สิ่งอะไรที่มันเพิ่มเข้ามา อะไรที่มันเเตกต่างมากกว่าเดิม ความเเปลกใหม่ หรือความสมจริง ความมีมิติของตัวละคร สิ่งที่เห็นเด่นชัดเลยใน Rises ก็คือหนังมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ...นั่นคือซีเรียส และจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม เราจะได้เห็นถึงมิติความเป็นมนุษย์ สิ่งที่จับต้องได้ และอารมณ์ที่รับรู้ได้ในทุก ๆ ตัวละคร ขอบอกก่อนเลยนะครับว่า สำหรับภาคนี้ ผมถือว่าไม่ได้ด้อยกว่า The Dark Knight เลย เพราะถ้าได้ดูภาค 1 2 และ 3 ต่อเนื่องกัน จะรู้ว่าในแต่ละภาคอะไรที่แตกต่างออกไป ซึ่งยากที่จะนำมาเปรียบเทียบกัน แต่บอกได้ว่ามันสุดยอด และถึงจะแตกต่าง แต่ก็สามารถประสานเนื้อเรื่อง ตั้งแต่ภาค Begin มาจนถึง Rises ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

  ผมจะไม่ขอเปรียบเทียบนะครับ ว่าภาคไหนดีที่สุด สนุกที่สุด .. เพราะมันสนุกทั้ง3ภาค ครับ เเต่สนุกออกไปคนละเเบบในมุมมองที่หนังต้องการนำเสนอครับ ส่วนสำหรับภาคนี้บอกได้คำเดียวว่า.. เป็นการปิดไตรภาคได้สมบูรณ์แบบจริงๆครับ อะไรที่สงสัยหรือคาใจ ก็ได้ถูกคี่คลายจนหมดแล้ว...มันลงตัวที่สุดแล้ว

  สำหรับ The Dark Knight Rises ในเนื้อเรื่อง จะเล่าถึงเรื่องราวในอีก 8 ปีหลังจากเหตุการณ์ใน The Dark Knight ซึ่ง ก็อทแธม ในเวลานี้..เป็นช่วงเวลาแห่งความสงบสุข ไร้อาชญากรมานาน หลังจาก Harvey Dent กลายเป็นทั้งสัญลักษณ์ ผู้นำพาความสงบมาสู่เมืองก็อทแธม เป็นทั้งแรงจูงใจ และเป็นกระทั่งกฏหมายคอยควบคุมให้เมือง แต่ในทางกลับกัน แบทแมน กลับตกอยู่ในฐานะผู้ต้องหาหมายเลขหนึ่งที่ตำรวจหมายหัว และนี่คือสิ่งที่แบทแมนต้องการ..

  มหาเศรษฐี บรูซ เวย์น ไม่มีใครเห็นเขาอีกเลยตั้งแต่วันที่ แบทแมน หายตัวไป เขาเก็บตัวอยู่ในคฤหาสน์เวย์น มีเพียงอัลเฟรด คนรับใช้คนสนิทเพียงคนเดียวเท่านั้นที่คอยอยู่เคียงข้างเขา บรูซ เวย์น ไม่สามารถที่จะออกไปยืนหยัดต่อโลกภายนอกได้อีกแล้ว เขาทิ้งความเป็นแบทแมน และคงจะไม่หวนกลับไปอีก บวกด้วยสภาพจิตใจอันย่ำแย่หลังจากการสูญเสียคนรักเมื่อ 8 ปีก่อน...และไม่อาจจะออกไปไหนได้ อีกต่อไป...

  จนกระทั่งการมาถึงของ เซลิน่า ไคล์ (แอนน์ แฮททาเวย์) นางแมวขโมยเจ้าเล่ห์ที่มีแผนการลึกลับของตัวเอง เธอเป็นสาวที่มี เสน่ห์ และเซ็กซี่มาก (555) และความเสน่ห์ของเธอ ก็ได้ซ่อนความร้ายกาจไว้ด้วยเช่นกัน เธอเพียงแต่มาเตือนว่า.. “พายุกำลังจะมา”แล้วพายุลูกที่ว่าก็มาจริงๆ เพราะความสงบสุขเมืองก็อทแธมมี เป็นเพียงความสงบก่อนที่พายุใหญ่กำลังจะมา! เพราะการปรากฏตัวของ เบน (Tom Hardy) วายร้ายคนใหม่ กับแผนการไม่ชอบมาพากล พร้อมกับเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่จะจมเมืองก็อธแธมไปพร้อมกับทุกคนที่นี่ อธิบดีกอร์ดอน ไปพบเจอ เบน และสมุนกองโจรของเบนโดยบังเอิญ กอร์ดอน ลบหนีออกมาได้ด้วยสภาพบาดเจ็บสาหัส แล้วนำความมาบอกกับ บรูซ เวย์น เมื่อเห็นว่ากอธแฮมกำลังจะเจอกับภัยร้าย แบทแมน จึงต้องกลับมาผงาด! อีกครั้ง!!

  แต่..การกลับมาของ แบทแมน ครั้งนี้ร่างกายของเขาไม่ได้แข็งแรง เหมือนคนหนุ่มอีกต่อไปแล้ว… หลังจากถูกนางแมวป่า หลอก ให้ไปเจอกับ เบน การปะทะกันครั้งแรก แบทแมน เรียกได้ว่าถูกทำลายย่อยยับ ทั้งพละกำลัง ความเร็ว ความดุดัน เขาสู้กับ เบน ไม่ได้โดยสิ้นเชิง สุดท้าย บรูซ ก็ถูกจับไปจองจำในคุก หรือ หลุมนรก นั่นเอง...ซึ่งในประวัติ ไม่มีใครสามารถรอดออกมาได้ มีเพียงการเล่าขานกันว่า มีเด็กคนหนึ่งสามารถทำได้ แต่นั้นก็เป็นแค่เพียงเรื่องเล่าขาน มานาน...แล้ว

  หลังจากนั้น เบน สามารถยึด ก็อทแธม และควบคุมได้เกือบทั้งหมด เหตุการณ์ก็เลวร้ายลงไปเรื่อยๆ ทั้งการปล่อยตัวนักโทษ อ้างว่าเป็นการเอาเปรียบชนชั้นทางสังคม จึงต้องได้สิทธิเท่าเทียมกัน เหตุการร์ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ส่วนตำรวจเกือบทั้งเมืองก็ถูกขังอยู่ใต้ท่อ ระบายน้ำ พร้อมกันทั้ง อุปกรณ์ฟิวชัน ได้เปลี่ยนมาเป็นระเบิดปรมาณูโดยสมบูรณ์ ในระยะเวลาเพียง 5 เดือน และ ก็อธแฮมกำลังจะแหลกเป็นจุน ด้วยระเบิดขนาดทำลายสูงนี้ และก็เหลือเวลาไม่มากแล้ว.. บรูช ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว!!

  บรูช ฝึกร่างกาย อย่างหนักเพื่อจะออกจากคุกนี่ แต่นั้นก็ไม่อาจเป็นผลสำเร็จ บรูช พยายามหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ หรือว่าแท้จริงแล้ว เขาต้องทำความเข้าใจกับอะไรบางอย่างเสียก่อน จนกระทั้งเขาได้รู้ถึงความกลัวที่แท้จริง และรู้ว่าจะเอาชนะมันอย่างไร และนั่นจะทำให้หลุดพ้นไปจากตรงนี้ได้ ในที่สุดเขาก็รู้เเละเข้า จึงก้าวพ้นออกมาได้ในที่สุด

  ตัวหนังมีการแทรกเรื่องราวภาคต้นอย่าง Begins และ ภาค Night ลงไปอย่างแนบเนียน เหมือนจะบอกเป็นนัยๆว่า อันนี้ภาคสุดท้ายแล้วน่ะ ภาคนี้คอหนังแอคชั่นจะสะใจไม่น้อย เพราะมีฉากระเบิด ฉากไล่ล่า การขับเครื่องบิน สุดตื่นเต้นมาให้ชมอย่างไม่อั้น ยิ่งช่วงท้ายของหนังยิ่งจัดเต็มอย่างสะใจอย่างมาก ประมาณว่า ตาต่อตา ฟันต่อฟัน พวกฉันนี่แหล่ะจะหยุดแก!!

  และฉากที่พี่ แบทแมน หิ้ว ระเบิดไปทิ้ง ผมสัมผัสถึงการเสียสละที่หาที่เปรียบไม่ได้ เพราะมันคือการเสียสละที่ยิ่งใหญ่มาก และเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะทำให้กับเมือง ก็อทแธม ที่เขารักมากที่สุด เขาไม่ลังเลที่จะทำ เขามุ่งหน้าที่จะช่วยเหลือทุกคนให้ปลอดภัย และก็จบชีวิตไปพร้อมกับเรื่องเลวร้ายเหล่านี้ทั้งหมด...

  ผมขอชื่นชมในนักแสดงนะ ที่เล่นดีมาก ทำให้เราอินไปกับตัวละครนั้นๆ โดยเฉพาะ ไมเคิล เคน ที่รับบทเป็น อัลเฟรด ทำให้ผมร้องไห้ไปด้วยเลยครับ ประทับใจจริงๆ..^^

  ส่วนนาย ตำรวจหนุ่มไฟแรงอย่าง จอห์น เบลค (โจเซฟ กอร์ดอน - เลวิทท์) แน่นอนเขาก็ร่วมงานกับ โนแลน มาแล้วใน (Inception) เขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เลือดใหม่ไฟแรง เรียกได้ว่าพ่อหนุ่มโจเซฟ แสดงเรื่องนี้ได้ดีมากๆ โผล่มากี่ทีบทเด่นตลอดเลย ถือว่ามีความโดดเด่น ไม่แพ้ตัวละครอื่นๆเลย และตอนจบ เขาคือผู้สานต่อแบทแมนหรือไม่ อันนี้ต้องรอติดตามต่อไป...

  ส่วน มาริยง โกติยาร์ท ที่แน่นอนเธอก็เคยร่วมงานกับ โนแลน ใน Inception มาครั้งนี้ เธอรับบทเป็น มิแรนด้า เทด ผู้สนับสนุนโครงการฟิวชันรักษ์โลกของ เวย์น เอนเตอร์ไพรซ์ พร้อมทั้งพยายามจะเจอ บรูซ ให้ได้ เธอดูมีเมตตา เป็นคนดีทุกอย่างที่เธอทำ เธอทำเพื่อ บรูซ ครับ ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมเช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้น่าประหลาดใจ และตื่นเต้น เธอดันเป็นตัวร้ายฝ่ายเดียวกับ เบน เสียดาย คาดไม่ถึงจริงๆ (แต่ในใจก็แอบคิดว่า อาจจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน ฮ่าๆ) แต่ท่าน บรูช เวนร์ ก็ได้อ่ะจึ๊บๆกับเธอ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 555+

  ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีใครแพ้ใคร ฉากการปะทะครั้งใหญ่ของกองกำลังตำรวจ และเหล่ากองทัพเบน ทำได้ออกมาน่าตื่นเต้นมากๆ มันทรงพลังสุดๆ มันดิบๆ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน และฉากระเบิด ตอนที่เกิดการระเบิดไปทั่วเมืองกอธแฮม มันเป็นประสบการณ์การดูหนังที่สุดยอดมากๆ มีระเบิดเป็นจุดๆไปตามเมือง ตามสะพานที่เชื่อมต่อกอธแฮมสู่โลกภายนอก ไฮท์ไลท์เด็ดเลยคือการระเบิดสนามฟุตบอล ตามตัวอย่างหนังที่แสดงให้เห็นกันไปแล้ว บอกได้เลยว่าตัวหนัง The Dark Knight Rises คือหนังที่มีการปิดเรื่องราวไตรภาคได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา จบตำนานการเดินทางอันยิ่งใหญ่ของ มนุษย์ค้างคาว ฉบับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ลงได้อย่างยอดเยี่ยมครับ ผมดูแล้ว อิน จนร้องไห้.. แนะนำนะครับ หากจะดูหนังให้ได้อรรถรส น้ำเสียง แนะนำให้ดูแบบ Soundtrack จะได้อารมณ์ร่วมมากกว่า ดู ภาคไทยนะครับ ^^

  และอีกอย่าง ดนตรีประกอบ (Hans Zimmer) ที่ปลุกเร้าความฮึกเหิมและเน้นถึงความยิ่งใหญ่ของเรื่องราวในภาคสุดท้ายได้อย่างยอดเยี่ยม ที่น่าขนลุก ตื่นเต้น ผมมีความรู้สึกว่า...หนัง 2 ชม. 40นาที กว่าๆนี้ ผ่านไปเร็วมาก ประทับใจมากๆครับ...^^

  และฉากสุดท้าย ถือว่าจบได้ดีมาก ทำให้เราคิดต่อยอดไป เป็นการจบที่ไปคิดต่อเอาว่า สรุปแบทแมน ตายหรือไม่ แล้วสิ่งที่ อัลเฟรด เห็น บรูช เวนร์ กับ เซลิน่า ไคล์ ในร้านกาแฟ คืออะไร หรือว่ามันคือภาพที่ อัลเฟรด คิดขึ้นมาเอง เพราะเขาอยากจะเห็นภาพเหล่านี้ในความคิดของเขา ส่วนนี้เราก็นำไปคิดต่อกันเอาเอง...สุดยอดครับ

  หนังให้ข้อคิดต่างๆมากมาย ทั้งคำพูดปรัญชาต่างๆ ล้วนเป็นคำคมคายเสียทุกคำ สามารถนำมาคิดเเละปรับใช้กับชีวิตประจำวันกับเราได้ดี หากเเต่ว่าเราเข้าใจมันอย่างถ่องเเท้ และสิ่งสุดท้ายที่จะกล่าว...คือ นี่เป็น "บทสรุปไตรภาค" ที่ยอดเยี่ยมมากๆ

คะแนนสำหรับหนังฮีโร่ผู้เสียสละ เรื่องนี้..

9.5/10

ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบครั





Read More

Men In Black 3 (2012)


Men In Black 3 (2012)


Men In Black 3 (2012)

เรื่องนี้ กำกับโดย Barry Sonnenfeld 
หนังเเนว Action/Comedy/Sci-Fi

   เปิดเรื่องได้ดีกับฉากที่ตัวร้าย กับเการแหกคุกอวกาศบนดวงจันทร์ เเละ การกลับมาอีกครั้งของเรื่องราว หน่วยพิทักษ์จักรวาล

เรื่องราวคือ สายลับเจ(วิลล์ สมิธ)ได้เดินทางย้อนเวลากลับไปเมื่อ 15ปี ก่อนต้น ขององค์กรลับ เอ็มไอบี ในยุค 1969 เพื่อยับยั้งเอเลี่ยนที่จะสังหารสายลับเค(ทอมมี่ ลี โจนส์) คู่หูของเขา และเปลี่ยนประวัติศาสตร์โลก งานนี้สายลับเจทำคนเดียวไม่ไหว
คงต้องให้สายลับเคในวัย 29 ปี (จอช โบรลิน) ผนึกกำลังสู้ ทำให้สายลับเจต้องย้อนกลับไปจัดการเรื่องราวในยุคนั้นให้เสร็จสิ้น
เเละช่วย สายลับเค ให้รอดพ้นจากการตายในครั้งนั้น เเล้วก็มีภารกิจที่ต้องช่วยโลก กอบกู้โลก ไม่ให้ถูกทำลาย นั่นเองครับ

หนังเรื่องนี้ ยังคงความบันเทิงและเสน่ห์ของหนังไว้ ทั้งมุกตลก ต่างๆ บวกกับ เหล่าเอเลี่ยนต่างๆที่เเปลก เเละประหลาด หลายๆ นานาพันธุ์ ชนิด ดูเเล้วชวนแปลกตา ตลกดีเหมือนกัน (คิดได้ไงครับ 55)

เเม้ช่วง มุกตลกในหนัง อาจจะมี แป๊ก ไปบ้าง เเต่ก็คงความสนุกไว้ได้ เเม้จะไม่ สุดๆ ก็ตาม เเละฉากต่อสู้ เเอคชั่น สำหรับผมก็คิดว่า ก็ทำออกมาได้ตื่นตา สนุกดี เเต่มันน้อยไปนิดครับ เหมือนไม่ค่อยจะสุดๆ อีกนั่นเเหล่ะ เหมือนจะเน้นมาทีฉากพูดคุย ระหว่างคู่หู สองคน เจ เเละ เค ที่พยายามงัด มุกตลก มาชนกัน

ฉากที่ผมชอบ คือ การกระโดดจากตึก เพื่อย้อนเวลา ฉากนั้น มันดู น่าตื่นเต้นดีครับ ได้เห็นทั้งภาพบรรยากาศของโลกในยุคต่างๆ ที่เปลี่ยนไป เเต่ละยุคสมัย มีทั้งยุดไดโนเสาร์บ้างล่ะ ยุคสงครามบ้างล่ะ ก็ไล่จนไปถึงยุค1969

ส่วน ระบบ 3D ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีครับ สมจริงใช้ได้ เเละก็ฉากสุดท้ายในการต่อสู้ ระหว่างสองคู่หูกับ ตัวร้าย เเละการปล่อยจรวด Apollo 11 ที่ถือเป็นฉากที่ใหญ่ที่สุดของหนังที่ดูตื่นตาดีทีเดียว เเละ ในช่วงท้ายยังมีปมเฉลยปริศนาบางอย่าง สายลับ เจ และ สายลับ เค ได้อย่างชวนสะเทือนใจและถือว่าเป็นส่วนเติมเต็มที่เชื่อมหนังทั้ง 3ภาคเข้าด้วยกันได้อย่างดี

สรุปเเล้ว หนังก็ยังคงสานต่อเรื่องราวใน Men In Black 3 ได้ดี ครบเครื่องอย่างที่หนัง 2 ภาคแรกมีได้อย่างดี แม้จะไม่มีอะไรแปลกใหม่มากนัก รวมทั้ง ระหว่างการเดินทางไปยังจุดจบของหนังมันออกจะน่าเบื่อไปสักนิด แต่หนังก็ยังมีความบันเทิงชวนให้ชมตั้งแต่ต้นจนจบได้

ซึ่งหากใครเป็นแฟนหนังชุดนี้ คุณจะชอบหนังภาคนี้ได้ไม่ยาก เว้นแต่คุณจะรับไม่ได้เลยที่หนังไร้ความสดใหม่หรือฉีกเเนวไปกว่าเดิม

เรื่องคะเเนนสำหรับเรื่องนี้ ผมขอให้ที่...

7.5/10

เกรด B


Read More

Into the Wild เข้าป่าหาชีวิต (2007)


Into the Wild เข้าป่าหาชีวิต (2007)




Into the Wild เข้าป่าหาชีวิต (2007)

กำกับโดย Sean Penn นำแสดง Emile Hirsch 

   เมื่อใครสักคนภายในสังคมเริ่มรู้สึกตัว จากการได้สัมผัสกับสิ่งที่แตกต่างไปจากสภาพภววิสัยอย่างที่โลกเป็นอยู่
ได้เรียนรู้ประสบการณ์ แนวความคิด ประเภทที่ให้ความสำคัญต่อเรื่องจิตวิญญาณ ต่อความเป็นสัจนิยม ปัจเจกนิยม
ใครคนนั้นอาจจะปฏิเสธสภาพที่เต็มไปด้วยความฟุ่มเฟือย ความวุ่นวาย การให้ความสำคัญต่อชิ้นวัตถุ การมีชีวิตที่สุขสบายภายใต้กรอบของกฎเกณฑ์ทางสังคม
ภายใต้กรอบของสิ่งอำนวยความสะดวกแห่งเครื่องอุปโภคบริโภคที่ถูกตีค่าให้เป็นสิ่งจำเป็น ใครคนนั้นอาจอยากรู้สึกหนีไปให้ไกลจากเรื่องเหล่านี้ แปลกแยกตนเอง ปลีกไปในโลกของตนเอง...

เรื่องจริงจากชายหนุ่มที่ชื่อ Christopher McCandless

  ประสบการณ์เดินทางที่สอนให้เรารู้จักความหมายของชีวิต สิ่งที่น่าสนใจคือ ที่มาที่ไปของเหตุผล ที่ทำไมChristopher McCandless
ถึงเลือกที่จะทำแบบนี้ เพราะมันสุดโต่ง ดูเหมือนเขาจะเป็นคนหัวดื้อ เหมือนอยู่นอกกรอบ และสนใจเพียงแต่ความรู้สึกของตัวเอง การตัดสินใจหันหลังทิ้งโลกที่เขาเคยอยู่ไปสู่การเดินทางด้วยตัวเขาเอง ถือเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยวมาก นี่เป็นเหมือนสิ่งที่อยากจะบอกว่า ที่จริงแค่เราคิดจะทำอะไร เพียงแค่ตัดสินใจทำ มันก็สามารถเปลี่ยนสิ่งที่เราเป็นอยู่ได้ทันที

  เหตุผลที่เขา แปลกเเยกออกจากสังคม มันก็อาจจะมาจากครอบครัว ที่ทำให้ คริส เกิดความต่อต้านทุกสิ่งทุกอย่างในสังคม เเละสิ่งที่เขาได้สัมผัสเเละได้เห็น ทั้งสิ่งเเวดล้อม ชิ้นของวัตถุ กฎเกณฑ์ทางสังคมจอมปลอม เขามองสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเเค่ความว่างเปล่า เขาไม่ได้ต้องการมันเลย เเม้กระทั้งเขาได้ทนเรียนจนจบ เขาก็ตัดสินใจที่จะเดินตามเส้นทางของตนเอง ออกไปค้นหาตัวเองสักพักนึง คริส ไปเเต่ตัว ไม่เอาอะไรไปเลย สิ่งของมีค่าต่างๆ เงินทอง ทรัพย์สิน บัตรเครดิต เผาทิ้งหมด มีเพียงเป้กระเป๋าใหญ่ๆสะพายติดตัว เเละของใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีพในป่า
เเละก็เดินทางไปยังโลกกว้างตามลำพัง

  เป้าหมายที่เขาจะไป คือ อลาสก้า อยู่กับธรรมชาติ เเละเขาก็ได้อาศัยอยุ่ในรถบัส ส้มหล่น คันหนึ่ง ที่ร้าง ปล่อยทิ้งไว้ ไม่มีคนอาศัยอยู่ เเละทุกๆวันที่เขาเดินทางไปที่ไหนๆ เจออะไร ค้นพบอะไรใหม่ๆ คริส มักจะทำสิ่งหนึ่งเป็นประจำคือ
การ จดบันทึก ลงในหนังสือ กับการพจญภัยของเขา คริสได้เจอผู้คนมากมาย เเละก็ได้เดินทางไป ค้นพบ อะไร ต่างๆมากมาย สิ่งที่ไม่เคยลองทำ สิ่งที่ไม่เคยเห็น เขาก็ได้เจอ ได้เห็น ได้ลอง ได้สัมผัสมัน ผู้คนเหล่านั้น ต่างก็ดีกับ คริส มาก บางทีการที่ คริส ได้เจอผู้คนเหล่านั้น คริส ก็อาจจะเข้าเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไประหว่างพวกเขาเหล่านั้นก็เป็นได้

  เเละเมื่อ คริส ได้รู้สึกถึง ความรัก ความผูกพันธ์ การอยู่รวมกันกับผู้คน เเละเริ่มเข้าใจทุกๆอย่าง เขาเลยตัดสินใจที่จะเดินทางกลับ เเล้วจะเขียนเป็นหนังสือการพจญภัยของเขา เเละบางที คริส อาจจะคิดกลับไปหาครอบครัวของเขา เเละจะหาคู่ครองซักคนหนึ่ง เเต่เเล้ว เหตุการณ์ตอนนั้นก็ไม่เป็นใจ เพราะทางกลับ มีเเม่น้ำสายใหญ่ตัดขาด จึงไม่สามารถผ่านไปได้ จึงทำให้เขาต้อง หวน กลับมาที่ป่า ในรถบัส เช่นเดิม เพราะกลับออกไปไม่ได้เเล้ว หลังจากนั้นทุกๆอย่างก็เริ่มเเย่ลงเรื่อยๆ อาหารก็หมด ข้าวสารก็ไม่มี ทุกๆอย่างมันเริ่มโหดร้าย เเละต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด คริส ต้องหาอาหารในการดำรงชีพอยู่ต่อไป เขาอยู่เพียงลำพัง เเละการล่าสัตว์ เขาก็ได้ตระหนักไว้ว่า เขาคงไม่มีทางทำได้ อีกต่อไป จึงทำให้ คริส ตัดสินใจที่จะ หาผลไม้ พืช เเทน การล่าสัตว์

  เเม้ คริส จะพกหนังสือ ตำรา การหาพืช ผลไม้ ในป่า เเต่ก็ ก็ยังไม่รู้อย่างเที่ยงเเท้ เเละความที่ไม่รู้ของเขาจึงทำให้เขาพลาด! เเล้วก็กินผลไม้ที่มีพิษเข้าไป หลังจากนั้นมันก็เเย่ลงเข้าไปทุกๆที เขาต้องได้รับการรักษา หากไม่รักษา อาจถึงเเก่ความตายได้
เเม้ จะดิ้นร้นอยู่ไปหลายวัน เพราะออกไปไหนไม่ได้ ร่างกายก็อ่อนเเอลงทุกที เเต่เเล้ว....ก็ต้องยอมรับ สภาพการตายของตน คงที่จะหนีไม่พ้นเสียเเล้ว... ก่อนที่จะสิ้นใจ เขาก็ได้พบสัจธรรมอีกอย่างนึงคือ ..

คริส เริ่มมองเห็นคุณค่าความหมายของผู้คนที่เขาหันหลังให้ รับรู้ถึงความรักและความผูกพัน เเละ ค้นพบสัจธรรมว่าความสุขที่แท้จริงต้องมีผู้ร่วมแบ่งปัน และตระหนักว่าความรักต้องเกิดจากการรู้จักให้อภัย

เเละข้อความสุดท้ายที่ได้เขียนลงในหนังสือ ก่อนที่ คริส จะจากโลกนี้ไป ... " Happiness Only Real Shared"ความสุข..มีความหมาย.....ต่อเมื่อ....ได้แบ่งปั

เรื่องราวชีวิตของชายผู้นี้ อาจทำให้ใครหลายๆคนเกิดเเรงบันดาลใจที่จะทำอะไรต่างๆมากมาย เเละเขาก็ได้สอนให้เห็นถึงบทเรียน ชีวิต เพราะ บางครั้งการที่เราคิดว่าเรารู้เเล้วทุกอย่าง เเท้จริงเเล้ว เราอาจจะยังไม่รู้บางอย่างก็เป็นได้

สำหรับเรื่องราวชีวิต จากเรื่องจริง ที่นำมาทำเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ได้ เเง่คิด ต่างๆมากมาย เป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่ง เป็นภาพยนตร์ที่ดีมากครับ ใครที่ยังไม่เคยได้ดู ก็ลองดูนะครับ เป็นหนังเรื่องเเรกที่ผมรู้สึกว่า ใช่เลย นี่เเหล่ะ มนุษย์เราก็เท่านี้เเหล่ะ
เงินทอง ลาภยศถาบันดาศักดิ์ ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง อยู่อย่างพอกิน เเละ มีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ ก็พอเเล้ว...^^

จริงๆคนเราคิดได้2เเง่มุมครับ บ้างก็อาจจะคิดว่า นี่ก็เป็นเพียงอุดมการณ์โง่ๆ อคติ ไม่ฟังใคร เห็นเเล้วน่าสมเพช เเต่ถ้าอีกมุมนึงล่ะ ก็เพราะเขานี่เเหล่ะ คือผู้ที่สอนให้พวกเราเห็นถึงเเก่นเเท้ของจิตวิญญาณมนุษย์ อย่างเเท้จริง เเละก็เป็นผู้เบิกทางให้เราได้เห็นถึงสัจธรรมของชีวิต!

สำหรับผมเเล้ว ผมอาจจะคิดเเบบเดียวกับ Christopher McCandless เเละเข้าใจสิ่งที่เขากำลังทำอยู่...

หนังดีขนาดนี้ เอาไปเลยครับ

10/10

เกรด A+

Read More

The Descendants สวมหัวใจพ่อ ขอทุ่มรักอีกครั้ง (2011)

The Descendants สวมหัวใจพ่อ ขอทุ่มรักอีกครั้ง (2011)




"เงินทองทรัพย์สมบัติที่พรั่งพร้อมไม่อาจนำมาซึ่งความสุขที่เที่ยงแท้ เพียงครอบครัวที่อบอุ่นก็นับว่าชีวิตนั้นครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว"

    เรื่องนี้ จัดเป็นหนังดราม่า/เบาสมอง เเต่ก็เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆครับ ทั้งรางวัลนักเเสดง จอร์จ คลูนี่ย์ เเละผู้กำกับ เล็กซานเดอร์ เพนย์ จัดเป็นหนังลูกโลกทองคำภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยมเเห่งปีเป็นหนังที่มีคุณค่าอีกเรื่องหนึ่งครับ

เรื่องราวประมาณว่า เเมต คิง(จอร์จ คลูนี่ย์)มีลูกสาวอยู่2คน คือ สก็อตตี้ (อมารา มิลเลอร์)วัย 10ขวบ นิสัยเเก่เเดดซักนิด และ อเล็กซานดรา (เชลลีน วู้ดลี่ย์)วัย 17ปี ที่นิสัยจะดูเเข็ง เเละก้าวร้าว พอสมควร

หลังจากที่ภรรยาเขา อลิซาเบธ คิง ได้ประสบอุบัติเหตุทางเรือ ในเกาะฮาวาย อาการหนักต้องนอนโรงพยาบาลนานเลย เเละมีท่าทีว่าจะนอนยาวครับ หรืออาจจะไม่ฟื้นเลยนั่นเอง
จึงทำให้ เเมต คิง ต้องทำหน้าที่พ่อ เพื่อคอยดูเเล ลูกสาวอีก2คน

เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างลูกๆของเขา เเละในขณะเดียวกัน เเมต คิง ก็ยังทำงานหนักไปด้วย เขาเป็นทนาย ครับ เเละมีแผนที่จะขายที่ดินของครอบครัวเขา เเต่ก็ยังตัดสินใจกันอยู่พักใหญ่...

( ลองคิดดู การที่เขาอาจจะให้ความสำคัญกับงานอย่างมากจนไม่ค่อยมีเวลาให้กับครอบครัว มองเเต่เพียงการเเสวงหาเงินทองมากมาย เเละ นี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุให้ความ สัมพันธ์ในครอบครัวเริ่มที่จะห่างหายออกไปเรื่อยๆก็เป็นได้ )

ต่อมา เเมต คิง ได้บอกความจริงกับ อเล็กซานดรา เรื่องเเม่ของเขา ก็ทำให้เธอเสียใจอย่างมาก เเละในเวลาเดียวกัน อเล็กซานดรา ก็ได้บอกความจริงกับ เเมต คิง ว่าเเม่ของเขาเเอบไปมีความสัมพันธ์กับ ชายอื่น โดยที่ พ่อ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย...

เเมต คิง ก็กระวนกระวายใจอยู่พักนึง เเละ หลังจากนั้น เเมต คิง ก็ออกตามหาชายคนที่เป็นชู้กับภรรยาเขา ทุกวิถีทาง อยากจะเห็นหน้า อยากจะคุยให้รู้เรื่อง เเละในขณะนั้นเขาก็ได้ตัดสินใจคิดพิจารนาชีวิตของเขาใหม่ ในหลายๆอย่าง รวมถึงทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดด้วย...

ต่อมาในช่วงเวลาที่กำลังตามหา ก็ได้พบทั้งเรื่อง ต่างๆมากมาย รวมถึง เรื่องเหลือเชื่อ! ที่ไม่เคยคิดมาก่อน
นั่นก็อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขาได้ค้นพบเเละสร้างชีวิตครอบครัวใหม่อีกครั้ง...เเต่กระนั้นเเล้ว เขาก็ตระหนักถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเเละเป็นอยู่ เขาก็พร้อมจะให้อภัยทุกๆอย่าง
เเละการจากของ อลิซาเบธ คิง ก็ทำให้เขาได้เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง เเละก็พร้อมที่จะทำหน้าที่พ่อที่ดี ต่อไปให้ดีที่สุด

(ฉากที่ผมชอบคือ ฉากสุดท้ายของหนังครับ ที่พ่อ เเละลูกๆได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้ากัน ดูเเล้วรู้สึก อบอุ่นใจ อย่างบอกไม่ถูก ^_^)

เเม้หนังมันจะออกเครียดๆ เเต่ก็กลับสนุก บรรยากาศต่างๆในเกาะฮาวาย ทั้งดนตรีประกอบที่ไพรเราะเข้ากับบรรยากาศได้ดี เเละ วิว ธรรมชาติในหนัง ก็เป็นจุดให้หนังนั้นดูคลายอารมร์ไปได้บ้าง ไม่เครียดเกินไปครับ

หนังพาตัวเองมาสู่ตอนจบของเรื่องราวได้อย่างหลักแหลม มีเหตุผล และอบอุ่น รวมถึงนักเเสดงที่เล่นดี ถือว่าเป็นหนังดีอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง ครับ ผมคิดว่า หากเราให้ความสำคัญกับครอบครัวมากกว่านี้ อะไรหลายๆอย่าง อาจจะไม่เป็นเเบบนี้ก็ได้..

เเม้ครอบครัวหลายๆครอบครัวอาจจะมีสื่งที่เเตกต่างกัน เเต่ถ้าหากเราจะให้ความสำคัญ เเละ หมั่นเติมความรัก เเละสร้างความสุขในครอบครัว เเละเอาใจใส่ นั่นเเหล่ะครับสิ่งที่จะเติมเต็มให้ครอบครัวมีความสมบูรณ์ที่ดีได้

บางครั้งชีวิตมันก็ไม่ได้ ราบรื่น เสมอไป มันก็ต้องพบเจอกับปัญหา ต่างๆมากมาย ยากที่จะเข้าใจให้ลึกซึ้ง เเต่ฉไหนเเล้ว เงินทอง ก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไปทุกอย่างสำหรับความสุขที่ได้มา บางครั้งเราก็ต้องมองเห็นสิ่งที่สำคัญ กว่า ที่ไม่ใช่เงินทองเพียงอย่างเดียว

สุดท้ายนี้เเล้ว ขอให้ทุกๆท่านมีความสุขมากๆนะครับ สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้สอน เเง่คิด อะไรไว้ หลายๆอย่างเลยทีเดียว

คะเเนนสำหรับเรื่องนี้

9.2/10

เกรด A

ขอบคุณครับ..

Read More

HOT FUZZ อัจฉริยะหน้าเห่ย (2007)


HOT FUZZ อัจฉริยะหน้าเห่ย (2007)


    ก่อนอื่นอยากจะพูดว่า หนังเรื่องนี้สุดยอดไปเลยครับ เเนะนำให้ดูกันอีกเช่นเคยครับ พอดีติดใจมาจาก shaun of the dead
กำกับโดย เอ็ดการ์ ไวท์ ผู้กำกับ จากเรื่อง shaun of the dead นี่เเหล่ะครับ เเละคู่หูก็ยังคู่เดิมครับ ฮาจริงๆเเบบว่าไปด้วยกันได้ 555

เริ่มเลยครับ โดย จ่านิโคลัส แองเจล (Simon Pegg)ตำรวจเมืองลอนดอน ที่เรียกว่าสุดยอดนายตำรวจเลยก็ว่าได้
ไม่ว่า คดี ดังๆ ต่างๆ มากมาย ก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม หรือเรียกว่า เป๊ะ!เลยก็ว่าได้ครับ ฮ่าๆ เเละเเน่นอน หลายๆคน ต่างก็ต้อง อิจฉา เเละหมั่นใส้ (555)กับความสามารถของเขา
ทั้งหมดเลยคิดวางแผนที่จะให้ จ่านิโคลัส แองเจล ไปยังเมือง แซนด์ฟอร์ด ที่ค่อนข้างชนบทเเละบ้านนอกเเละเเล้วก็ถูกส่งตัวไปปฎิบัติหน้าที่ที่นั่น...
ว่ากันว่าที่เมืองนี้ปลอดอาชญากรรมมานานมากเเล้ว เเต่จ่านิโคลัส แองเจล ไม่ได้คิดเเบบนั้นเลย...เเละเเล้วเขาก็ได้เจอคู่หูที่เป็นตำรวจชื่อ แดนนี่ บัตเตอร์แมน (Nick Frost) เป็นคู่หูที่มีความเเตกต่างกันคนละขั้วเลยทีเดียว...

เเม้เมือง แซนด์ฟอร์ด เเห่งนี้จะดูมีความสงบสุขปลอดภัยไร้อาชญากร เเต่ นิโคลัส ก็ยังสังเกตุเห็นถึงความผิดปกติ เเละมีเหตุการณ์เเปลกๆ ทั้งการคดีฆาตรกรรม ต่างๆที่เกิดขึ้นติดต่อกัน
เเต่กลับกลายเป็นว่า ตำรวจเมือง แซนด์ฟอร์ด คิดซะว่าเป็นอุบัติเหตุทั้งสิ้น ทำให้ นิโคลัส กลายเป็นตัวแปลกในหมู่เพื่อนไปเลย เเต่เขาก็ไม่ละทิ้งความพยายาม...
จึงสืบสวนคดีต่างๆอย่างละเอียดถี่ถ้วน เเละหาต้นตอผู้อยู่เบื้องหลังที่คอยบงการเมืองนี้..เเละด้วยความที่เขาไม่ละทิ้งความพยายามเขาจึงทำสำเร็จ

จะว่า หนังเรื่องนี้ที่ผมชอบคือความลงตัวของ เเอคชั่น คอมเมดี้ ที่สุดยอดจริงๆครับ เเนะนำให้ดูกันครับ ยังไงก็ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งครับ สำหรับเรื่องนี้ ต้องลองดู!

ในส่วนของคะเเนน ผมให้ที่

8.9/10

ขอบคุณครับ


Read More

shaun of the dead ( 2004 )


shaun of the dead ( 2004 ) รุ่งอรุณแห่งความวาย (ป่วง)


   เรื่องราวของนาย ชอร์น (Simon Pegg)ที่วันๆเอาเเต่ทำงาน เเละสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ช่วงเย็นพี่เเกจะมานั่งดื่มเบียร์เป็นประจำครับ
ชอร์นดูเหมือนจะเป็นคนที่ไร้ความรับผิดชอบกับเรื่องความรักซะจริงๆ ดูจะไม่ค่อยมีเวลาหรือใส่ใจกับ เเฟนของเขาเท่าไหร่นัก เธอคือ (Kate Ashfield) นั่นเอง
เเละเเล้ว ชอร์นก็ได้รับปากจะไปเดทกับเธอ เเล้วสั่งจองโต๊ะอาหาร เพื่อในยามค่ำคืนเเห่งเราสอง เเต่วันรุ่งกับไม่ได้เป็นเเบบนั้นครับ เเละเเล้วก็ผิดนัดกันจนได้ เละเเน่นอนเเฟนของ ชอร์น ก็โกรธมากๆ ถึงกับบอกเลิกเลยทีเดียว ..

หลังจากนั้น นาย ชอร์น ก็รู้สึกผิดเเละพยายามกลับตัวเเละเเก้ไขใหม่ เพื่อที่จะให้คนรักกลับมาอีกครั้ง เเล้วเหตุการณ์ก็พาไปในเรื่องของ ซอมบี้ซะเเล้ว ...

อยู่ๆวันหนุ่ง ก็มีคนติดโรค เเละก็กลายเป็นซอมบี้กันทั้งเมืองเลย เเต่ นาย ชอร์น ดูเหมือนจะไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยครับ ก็คงยังใช้ชีวิตประจำวันอย่างปกติ เเต่เเละเเล้วก็รู้เข้าจนได้ครับ เเต่ผมดูไปก็ฮาไปนะ ซอมบี้เดินเต็มถนน ข้างทาง เเต่ นาย ชอร์น ไม่ได้รู้สึกรู้สาถึงความผิดปกติเลยหรือไร 555+ เเต่พอได้รู้นาย ชอร์น เเละเพื่อน เอ็ด( Nick Frost) ก็หาวิธีจัดการกับเหล่าซอมบี้
เเละออกโรงลุยไปรับเเฟนของ ชอร์น เเละพ่อเลี้ยงเเละเเม่ เพื่อมายังเเหล่งที่ปลอดภัยนั่นเอง...

เเละที่บอกว่าปลอดภัยนั่นก็คือ บาร์ที่เขาชอบไปดื่มเบียร์ทุกคืนนั่นเเหล่ะครับท่าน ไม่รู้จะฮาไปไหนครับ 55 ลองคิดดูในสถานการณ์เยี่ยงนี้คิดจะไปนั่งจิบเบียร์เย็นๆกินกันอีกรึ 55 พี่เเกสุดๆจริง

จริงๆก็เป็นหนังซอมบี้ ที่ฮาอยู่ครับ ดูได้ลื่นจริงๆ ฮาได้ตลอด บ้าๆ บอๆ ติ๊งต๊อง ได้ดีจริงๆ เเต่ช่วงที่ฉากซอมบี้ฉีกเนื้ออันนี้ก็ดูเเล้วสยองอยู่เหมือนกันนะ ฉีกเเขน ฉีกขา เลือดสาด เเหวะจริงอะไรจริง มันก็น่ากลัวเหมือนกันครับในช่วงนี้

ผมชอบนะครับเรื่องนี้ ตลก ฮาดีครับ เเค่หน้าตาของ Simon Pegg ก็ฮาเเล้ว ได้ใจผมจริงๆ ชอบมากครับ มันโดนใจผมสุดๆเลยล่ะ ฮ่าๆๆ เเนะนำให้ดูกันครับเรื่องนี้ไม่ผิดหวังครับ คอนเฟริม!

สำหรับคะเเนน ผมให้

8.5/10 เลยคร้าบบบ ^^

ขอบคุณครับ...


Read More

The Avengers (2012)


The Avengers (2012)


The Avengers (2012)
  ถ้าพูดถึงเหล่าฮีโร่ในใจคุณ คุณก็จะนึกถึงพวกเขาเหล่านี้ เเน่นอนครับเรื่องนี้เป็นที่ฮือฮา กระเเสตอบรับเเรงมาก รายได้ก็ทำได้มหาศาลเลยกับหนังฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ที่ทุกคนต่างรอคอยกันทั่วโลก เเละเเล้วก็มาถึง...


The Avengers คือหนังซูเปอร์ฮีโร่แอคชั่นตามสูตรครับ ที่เริ่มต้นด้วยฉากเปิดตัวตัวร้าย และจบด้วยฉากแอคชั่นใหญ่พร้อมความพ่ายแพ้ของเหล่าร้ายทั้งหลายนั่นเอง..

ในเนื่อเรื่องนั้น The Avengers ในช่วงเเรกๆ จะเป็นการเเนะนำเปิดตัวละครเเต่ละตัว เพื่อให้เราเห็นถึง ความสามารถของฮีโร่เเต่ละตัวนั้น 

เเต่การจะรวมตัวกันได้นั้นก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดซักเท่าไหร่ ต้องค่อยๆปรับ เเละอยู่ด้วยกันให้ได้ เพราะ ฮีโร่ เเต่ละตัวก็ไม่ได้อ่อนเเอ ที่จะยอมก้มหัวให้ใครง่ายๆ 
เป็นธรรมดา เจอกันครั้งเเรก ก็ต้องฟัดเหวี่ยง ดูเชิงชั้นมวยกันไปก่อน นี่เเหล่ะถึงจะสนุกครับ

เหตุผลที่เหล่าซุปเปอร์ฮีโร่มารวมตัวนี้ก็เพราะว่าโลกกำลังอยู่ภายใต้การคุกคามของตัวร้ายที่จะมาต่อกรกับเหล่า The Avengers ที่มีชื่อว่า Loki 
แล้วเจ้านี่มันก็เป็นผู้ควบคุมก้อนวัตถุ ออกจะลึกลับ ที่บรรจุไปด้วยพลังงานที่สามารถเป็นประตูไปสู่จักรวาลได้นั่นเอง และด้วยสิ่งนี้เอง ที่ Loki มุ่งหวังที่จะโจมตีโลกใบนี้ด้วยกองทัพของเขานั่นเองครับ เเละเพราะอย่างนี้ จึงต้องมีเหล่า The Avengers เพื่อต่อกร 

เเต่ถ้าพูดตรงๆก็ต้องยอมรับนะครับว่า ช่วงเเรกๆของหนังก็จะเป็นการรวมตัวและปรับตัวเข้าหากันก็เลยคุยกันซะเป็นส่วนใหญ่ หนังอาจดูน่าเบื่อหน่อยครับในช่วงนั้น..

หากจะกล่าวว่า การแบ่งหน้าที่เเละบทบาทความเป็นฮีโร่ให้เท่าเทียมกันนั้น ขอบอกเลยว่า..ถือเป็นการ รวมทีมได้ลงตัวค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ ความเป็นทีมของส่วนรวมมีความสมบูรณ์มาก
หากได้เห็นพลังเเละฉากที่น่าตื่นเต้นเเล้วนั้น ยังมองเห็นถึงความสามัคคีเป็นทีมเหล่า ฮีโร่ ได้ดีจริงๆครับ

สรุปคือ หนังก็สนุกดี เอฟเฟคกระจาย เเละมีมุขตลกบ้าง ก็เหมือนจะดูได้สำหรับเด็กๆ หรือทุกได้ทุกเพศทุกวัยครับ ก็ไม่ได้รุนเเรงอะไรมากมายครับ 
หากมองดีๆเเล้วก็เป็นหนังที่สะท้อนในสังคมเราได้ดีเหมือนกัน เเละยังมีคติสอนใจหรือเสียดสีมนุษย์ในเรื่องความลุ่มหลงและเห็นแก่ตัว.. 
ถามว่าคุ้มค่ากับการรอคอยไหมตอบได้เลยว่า "คุ้มค่า"ครับ
เเต่หากถามว่า สนุกสุดมันเเบบไม่มีที่ติ เลยนั้นก็ล้วนเเล้วเเต่ส่วนบุคคลนะครับ เเต่สำหรับผม มันก็ยังมีข้อติอยู่บ้าง เเต่โดยรวมก็ถือว่าชอบครับ

คะเเนนที่ให้คือ 

8.5/10

ขอบคุณครับ
Read More

Powered By Blogger | Template Created By Lord HTML