Life of Pi ชิวิตอัศจรรย์ของพาย (2012)

Life of Pi ชิวิตอัศจรรย์ของพาย (2012)

   Life of Pi สร้างขึ้นจากหนังสือขายดีแนวผจญภัยแฟนตาซีของ ยาน มาร์เทล ถ่ายทอดเรื่องราวของเด็กหนุ่มชาวอินเดีย ชื่อ พาย พาเทล โดย Ang Lee ผู้กำกับรางวัลออสการ์ เเละ นักเเสดงนำหน้าใหม่อย่าง Suraj Sharma เล่นบทเป็น “พาย”

(ผมจะรีวิวแบบคร่าวๆ ผสมผสานกับแนวความคิดที่หนังพยายามจะถ่ายทอด)

  เรื่องราวของหนุ่มที่ชื่อว่า “พาย” เป็นคนอินเดียที่นับถือทั้ง สาม ศาสนาในเวลาเดียวกัน คริสต์ ฮินดู อิสลาม เค้าใคร่รู้เสียทุกอย่าง เขาสนใจในหลายๆสิ่ง หรือที่เรียกว่า เป็นผู้ใฝ่รู้อยู่เสมอๆ จึงไม่แปลกใจที่เขาจะเป็นเด็กที่เก่ง และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าเขาจะเชื่ออะไรดี ระหว่างความสมเหตุสมผล และ ความเชื่อของคนหลายๆคน “คุณเลือกที่จะเชื่อเรื่องไหน…..เพราะมันเชื่อมโยงกับพระเจ้า”

  ในเรื่องนั้น ครอบครัวของ พาย เจ้าของสวนสัตว์ยักษ์ใหญ่ในเมืองพอนดิเชอร์รี่ พายอยู่กับสวนสัตว์มาตั้งแต่เด็ก และนั่นเป็นสิ่งที่เขาจะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมันด้วย ทว่า พายเป็นเด็กช่างรู้ จึงคิดอะไรที่ต่างจากคนอื่นบ้าง และนั่นก็เป็นบทเรียนสำคัญ ที่พ่อของเขาได้สอนไว้ตั้งแต่ช่วงยังเด็ก..และเขาจะจดจำมันได้ดี เสือ เบงกอล ที่ชื่อ ริชาร์ด พาคเกอร์ และนี่คือบทเรียนการอยุ่ร่วมกับสัตว์ดุร้ายเช่นนี้ (คนที่ได้ดูคงจะรู้ครับ)

  ช่วงเวลาผ่านไปจนเขาเติบโตขึ้น มีอยู่วันหนึ่ง ทางครอบครัวของ พาย ได้ตัดสินใจที่จะขึ้นเรือขนส่งของบริษัทญี่ปุ่น เพื่อการแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าในแคนาดา เขาจึงได้ตัดสินใจที่จะออกเดินทาง พร้อมกับเหล่าบรรดาสัตว์ทั้งหลาย พายอาจไม่เห็นด้วยที่ครอบครัวจะย้ายออกจากที่ที่ แต่นั่นอาจเป็นเหตุผลที่จำเป็นบางอย่างที่ทำให้ต้องจากที่นี่ไป...เเละเเล้วก็ออกเดินทาง

  มาสู่เหตุการณ์บนเรือระหว่างเดินทางไป..ทุกๆอย่างอยู่ในความปกติดีแต่..คืนนั้น..พายุแรงมาก ด้วยความอยากรู้  ของ พาย เขาจึงออกไปดู และก็เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น เขาสนุก และบ้าบิ่นสุดๆ เพราะนี่คือสิ่งที่เรียกว่า ” ความท้าทาย! “เข้ามาแรงๆเลยสิ พัดมาแรงๆ ฉันอยากจะรู้นัก ว่ามันจะวิเศษ แค่ไหน..?” แต่แล้ว..หายนะก็ตามมา..

คลื่นพายุแรงซะจนจมเรือใหญ่ ได้ทั้งลำ ทุกคนต่างเอาตัวรอด แต่..ครอบครัวของเขา พ่อแม่ และพี่ชาย ยังนอนอยู่ในเรือ...พายนั้น พยายามแต่แล้วก็สูญเสียครอบครัวไป และแล้วเรือเล็กฉุกเฉินที่มีคนจะใช้ กลับกลายว่า พาย ได้ใช้เองซะแล้ว...เขาตกลงไปในทะเลพร้อมกับเรือเล็กกู้ชีพฉุกเฉิน หลังจากนั้นเรือก็จมลงไปในทะเลลึก เขารอดอย่างปาฏิหาร แต่สิ่งที่วิเศษกว่านั้นในเรือ...ไม่ได้มี แค่หนุ่มพายคนเดียว แต่มีทั้ง ม้าลาย ลิง หมา และเสือโตเต็มไวที่ดุร้าย.. เขาจะอยู่อย่างไรกับสัตว์ดุร้ายเช่นนี้ได้ล่ะ?

"การผจญภัยของ พาย ก็ได้เริ่มขึ้น"

  เช้าขึ้น..ทุกๆอย่างก็อยู่ในความเงียบ และมีเสียงคลื่นน้ำสากๆ พร้อมกับความอ้างว้างบน มหาสมุทรกว้างใหญ่ มองไปทางไหนก็ไร้ความหวัง เขาโดดเดี่ยว ชีวิตนี้เหมือนจะสิ้นหวัง...”และพวกเจ้าที่พอยหล่นลงมาด้วย ข้าเองไม่อาจดูแลพวกเจ้าได้หรอกนะ”

  แต่ด้วยการมีความหวัง “ก็ยังไม่หมดหนทางซะทีเดียวบางทีพระเจ้าให้มอบความหวังมาสู่ตัวข้าก็เป็นได้.. หากเราไม่ยอมแพ้มัน เราเองก็ยังมีหวัง พระองค์จะทรงชี้นำทาง ข้าเชื่อแบบนั้น”

วันแล้ววันเล่า พาย เริ่มที่จะเรียนรู้การใช้ชีวิตที่นี่ตอนนี้ให้ได้ “ ใต้เรือมีอะไรบ้าง ของกิน ของใช้ฉุกเฉิน แล้วจะได้กี่วัน กี่อาทิตย์ หลังจากนั้นล่ะ เราจะทำอย่างไรเพื่อให้รอดต่อไป สัตว์ที่มากับเรือ ก็ทยอยกินกันเองไปหมดแล้ว เหลือเพียงแต่สัตว์ที่ดุร้าย อย่าง เสือเบงกอลที่ชื่อ ริชาร์ด พาคเกอร์เราจะทำให้มันเชื่องอย่างไรดี...?”

  หลายๆวันเข้า ทุกอย่างก็เริ่มไม่เหลือแล้ว เจ้าตัวที่อยุ่ในเรือก็คงจะทนไม่ไหวแล้ว อีกไม่กี่เวลาคงจะเขมือบเราเป็นแน่แท้ เราต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว...ปลา? ปลาไงล่ะ ตกปลาสิ ทั้งเราและเจ้าเสือนั่นด้วย เราต้องหาปลาในนี้แหล่ะ...

  อยู่ๆความไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น บางทีเขาอาจไม่โชคร้ายซะทีเดียวก็ได้ มีฝูงปลาบิน เต็มไปหมดนับหลายร้อยตัว บินผ่านไปมาและนั่นก็ยืดชีวิตให้พวกเขาไปได้ช่วงเวลาหนึ่ง เเต่ พาย ไม่ย่อท้อ เขาพยายามหาหนทางที่จะไปจากที่นี่ ให้ได้เเม้ความน่าจะเป็นไปได้เเทบไม่มีเหลืออยู่เลย..

  คืนนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่สวยงามมาก แมงกระพุนในช่วงกลางคืนมันช่างสวยงามเสียจริง และเจ้าปลาวาฬยักษ์กระโดดออกจากผิวน้ำกระทบกับน้ำ ระยิบ ระยับ เป็นประกายแสงที่สวยงามอะไรเช่นนี้..ฉันจะจดจำคืนนี้ได้ดีเลยล่ะ
(ส่วนตัวชอบนะครับ สวยมากๆจริงๆ ผมแอบเสียดายนะที่ไม่ได้ดู ระบบ 3 D คงเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากๆแน่ๆเลย)

  คืนพายุโหมกระหน่ำ อย่างรุนเเรงกลางทะเลอันกว้างใหญ พายได้เเต่ขอ เเละอ้อนวอนต่อพระเจ้า สุดท้าย..วันนี้ก็มาถึงช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง เเละจุดจบ "เรากำลังจะตายแล้วหรอ เรามาได้แค่นี้รึเปล่า ฉันกับแก คงมาได้แค่นี้ เราคงจะตายกันที่นี่ตอนนี้แล้วล่ะ ที่ผ่านมาเราต่างเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันให้ได้ ฉันเองก็อาจไม่อาจทอดทิ้งเเกได้เเล้ว เเลเเกก็ด้วยเช่นกัน เเต่เเล้ววันนี้ก็มาถึง.....ทุกๆอย่างคงมีจุดสิ้นสุด.. ”เเต่ภายในใจฉันกลับคิดว่า พระองค์คงไม่ทอดทิ้งเรา พระองค์จะนำทางเราไปสู่แสงสว่างได้ เราจะรอด”........ และแล้วเกาะกลางทะเล เรือพายลอยมาติดที่เกาะนี้ ..”เขาตื่นขึ้นมากับพบสิ่งที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่า “โอ้ ฉันรอด ฉันไม่อาจนึกว่านี่เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว..”.

  เรื่องราวบนเกาะนี้มีสัตว์ชนิดหนึ่งอาศัยจำนวนมาก เต็มเกาะ (จำไม่ได้ว่าเรียกอะไร) แต่มันอยู่กันเต็มเลย และตรงกลางเกาะมีแอ่งน้ำขนาดเล็กอยุ่ด้วย คาดว่าคงเป็นน้ำจืด อันที่จริงเขาสามารถมีชีวิตรอดที่นี่ได้ แต่เขาก็เลือกที่จะไปตามหนทาง เขาคิดว่าคงไปรอดแน่ เขาเชื่อแบบนั้น

  พอเรื่องราวมาถึงจุดจบ พายร่องเรือลอยมา ที่เกาะๆหนึ่งที่มีผู้คนอาศัย นั่นเป็นเหตุผลว่ารอดแล้วจริงๆ บางทีเขาคิดเสมอว่าเขารอดแน่ๆ เลยตัดสินใจออกมาจากเกาะกลางทะเลนั้น แต่ในช่วงเวลาที่เขาเศร้าที่สุดก็คือ เมื่อ ฉันและแก ริชาร์ด พาคเกอร์
เรามาถึงฝั่งด้วยกันแล้ว เรารอดแล้ว เราผ่านอะไรด้วยกันมามาก ฉันเองก็ไม่ทอดทิ้งแก และแกคงไม่ทอดทิ้งฉันเช่นกัน ริชาร์ด พาคเกอร์ กระโดดออกมาจากเรือและเดินไปอย่างช้าๆ โดยที่ไม่หันหลังมามองเขาเลย เเละจากไป... พาย เลยตระหนักและเข้าใจระหว่างที่พ่อเคยสอนไว้ ว่าเรากับมันไม่อาจเป็นมิตรกับมันได้...บางทีอาจเป็นได้ เเต่ไม่อาจเข้าถึงภายในจิืตใจด้วยสัญชาตญาณ และแล้ว “สิ่งที่เจ็บปวดที่สุด..คือการไม่ได้บอกลากันและกัน”

  ภาพยนตร์ Life of Pi มีการพัฒนาเทคนิคสำหรับการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ด้วยรูปแบบภาพ 3 มิติ เปิดประสบการณ์ที่มีมนต์เสน่ห์น่าหลงใหล สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างน่าประทับใจและพาผู้ชมไปสู่การค้นพบที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม คุ้มค่ากับการตีตั๋วไปดูแน่นอนครับ ได้แง่คิดกลับมาตรึม เป็นหนังในดวงใจอีกเรื่องของปี 2012 เลย

ปล.บางช่วงที่พูดคุยสนทนากัน อาจมีพาหลับกันไปบ้าง ฮ่าๆ เเต่นั้นก็เเฝงไปด้วยข้อคิดนะ

คะแนนเรื่องนี้เอาไปเลย 9.75/10 เลยครับ ^^

ขอบคุณครับ (เดี่ยวมีเวลาจะมาเขียนรีวิวอีกนะครับผม)